Tuesday, April 10, 2012

อธิบาย gat ภาษาอังกฤษ ปี 54

สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิงค์นี้นะคะ
http://image.dek-d.com/1/admission/gatpat541/GAT2.pdf
เอามาจากพี่ลาเต้ เว็บเด็กดีค่ะ


ตอนที่ 1 เลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุด 1-15
*บางคำที่เราแปลจะไม่เป็นทางการนะคะ แบบเอาเข้าใจง่ายๆ


1. A: Can i borrow you pencil? ขอยืมดินสอได้มั้ย?
    B: ______. Take the one on the desk. I'm not using it. .......... เอาอันบนโต๊ะนะ ฉันไม่ได้ใช้


1. Sure    แน่นอน              2.Really  จริงหรอ
3. Well done  เยี่ยมมาก     4.Not Again  ไม่อีกแล้ว


คำตอบคือ ข้อ 1 นะคะ คงไม่ต้องอธิบายเนอะข้อนี้


2. A: _________?
    B: She's lovely. I really like her. เธอน่ารักมาก . ฉันชอบเธอจริงๆนะ


1.How do you see Jane? คุณมองเจนว่าเป็นอย่างไร?    2. How do you meet Jane? คุณเจอเจนยังไงอ่ะ?
3.How do you go with Jane? คุณไปกับเจนอย่างไร ?     4. How do you find Jane?  คุณหาเจนอย่างไร?
ตอบข้อ 1 ค่า ตรงตัวเลยเน้อ




3.       Janet:  I heard you passed the screening test. ฉันได้ยินมาว่าเธอผ่านการทดสอบคัดเลือก
          Wichai:  Yes. And I’m invited for an interview next Friday. ใช่ และผมก็ได้รับเชิญไปสัมภาษณ์วันศุกร์หน้า
          Janet:  ……………………… .
          1.  I’ll keep my fingers crossed.  ฉันจะเอาใจช่วยนะ หรือ ขอให้ผ่านนะ             
          2.  See you at the interview เจอกันที่สัมภาษณ์นะ (เจเน็ทไม่ได้บอกว่าตัวเองติดสัมภาษณ์หรืออะไร เพราะฉะนั้นตัดไปเลยค่า )
          3.  What are you doing on Friday?  คุณจะทำอะไรวันศุกร์?  (เอ่อ คงไม่ใช่ข้อนี้ ตัดออกไป)        
          4.  Don’t miss it. Will you? อย่าพลาดละกันนะเธอ 
เหลือข้อ 1 กับข้อ 4 ดูแล้ว ข้อ1 มีความเป็นไปได้มากกว่า เพราะงั้นตอบข้อ 1 นะคะ 




4.       A:  I’ve been very busy. So much work to finish before the exams. ฉันยุ่งมากๆเลย งานเยอะมากก่อนสอบ
          B:  …………… . You’ll be surprised how quickly it’ll all be over. ____ แล้วเธอจะอึ้ง/ตกใจว่ามันจะเสร็จเร็วมาก
          1.  So far so good (ยิ่งทำยิ่งดี-ก้าวหน้า)                                                
          2.  Good for you (ยินดีด้วย)
          3.  Hang in there  (ประมาณว่า อึดเข้าไว้ /สู้ไว้ก่อน )                               
          4.  Get back on track (กลับมา เกือบสำเร็จ)
ตอบข้อ 3 ค่า




5-7
          Sunsan:      What are you doing? ทำอะไรอยู่อ้ะ ?
          Supa:           I’m studying for the final exams. ฉันกำลังเตรียมสอบปลายภาค
          Susan:          …………. 5 …………… !  I haven’t done anything yet. I’m not in the mood.
                                  ...........5...........  ฉันยังไม่ทำอะไรเลย ฉันไม่มีอารมณ์
          Supa:          Well, the exams aren’t that far off. ……….6 ………..
                                อืม..เหลือเวลาไม่มากนะก่อนจะถึงวันสอบ (นานมาก/ห่างไกล (far off))   ......6.........
                                I won’t have enough time to prepare. ฉันจะมีเวลาไม่มากพอจะเตรียมตัว
          Susan:          Do you think the exams will be difficult? คุณว่าข้อสอบจะยากไหม?
          Supa:            Of course.  That’s why I’m preparing for them.
                                  ยากแน่นอน นี่คือเหตุว่าทำไมฉันกำลังเตรียมตัวสอบตอนนี้ไง
          Susan:          Well then.  I think …………. 7 ………. to study for the exams now.
                                  อืมแล้ว ฉันคิดว่า .......7....... ที่จะเตรียมสอบตอนนี้
                                 Thanks for reminding me. ขอบใจที่เตือนฉัน


5.1  How clever I am ทำไมฉันฉลาดแบบนี้นะ                    
5.2  How happy you are แหม ดูเธอมีความสุขจังนะ 
5.3  What a good student เป็นนักเรียนที่ดีมาก                 
 5.4  What a nice occasion  เป็นโอกาสดีจริงๆ
ตอบ ข้อ 3 นะคะ What a good student

6.1 I'm sorry ฉันขอโทษ/เสียใจ                    6.2  I'm afraid ฉันเกรงว่า
6.3 I can't imaging ฉันนึกภาพไม่ออกเลย    6.4  I can't believe ฉันไม่อยากเชื่อเลย 
ตอบ ข้อ 2 นะคะ I'm afraid เกรงว่าจะไม่มีเวลาเตรียมตัว

7.1  it's a good idea เป็นความคิดที่ดี        7.2  it will be very hard ท่าทางจะยากนะ
7.3  it's very interesting  น่าสนใจ             7.4 things will be alright ทุกอย่างจะโอเค 
ตอบ ข้อ 1 นะคะ  it's a good idea เป็นความคิดที่ดี ที่จะเตรียมสอบตอนนี้


*ขอไม่พิมพ์ภาษาอังกฤษข้อยาวๆนะคะ พอดีไม่มีเวลาใช้คอมมาก -..-
จะแปลอย่างเดียวนะคะ




8-10
    พอลล่ า : ลินดา, เธอได้โทรหา (get hold of ) เจนหลังเลิกงานเมื่อวานนี้ไหม? 
    ลินดา   :  ไม่ , ฉันขอโทษนะพอลล่า. ___8____ เมื่อคืน. เช้านี้ฉันก็ลองใหม่ แต่ไม่มีใครรับสาย
    พอลล่า :  เธอไม่มีเบอร์เจนหรอ?
    ลินดา   :   ___9___. เธอมีมั้ย?
    พอลล่า : แน่นอน ฉันมี . เธอน่าจะโทรหาฉันเมื่อคืน
    ลินดา   : ก็ฉันน่ะ คิดว่าเธอยุ่งกับการเตรียมประชุม ฉันเลยไม่อยากรบกวน ____10___ ?
    พอลล่า :  การประชุมจะเริ่มในอีก 10 นาทีนี้. That's out of question แปลว่าเป็นไปไม่ได้นะคะ จำๆ เป็นหนึ่งในอีเดียมของภาษาอังกฤษ  เจนมาไม่ทันแน่ๆ 


8.1 I didn't put her through ฉันไม่ได้ต่อสายเจนถึงเธอ   
8.2 i don't have her number ฉันไม่มีเบอร์ของเธอ(เจน) 
8.3 her line was always busy สายไม่ว่างตลอดเลย     
8.4 her phone wouldn't answer โทรศัพท์เธอไม่รับสาย ประมาณว่ารับสายไม่ได้ 
ตอบ ข้อ 3นะคะ สายไม่ว่าง ประโยคถัดไปขยายให้ว่า เมื่อเช้าโทรไปอีก แต่ก็ไม่มีคนรับ


9.1 I have a question ฉันมีคำถาม                                              
9.2 I'm sorry. I don't ฉันขอโทษ แต่ฉันไม่(มี)
9.3  You mean her phone number คุณหมายถึงเบอร์ของเธอ   
9.4 That's not possible นั่นเป็นไปไม่ได้ 
ตอบข้อ 2 นะคะ I'm sorry. I don't ไม่มีเบอร์ ลินดาเลยถามพอลล่าว่าแล้วเธอล่ะมีมั้ย 


10. 1. Should I call her now  จะให้ฉันโทรไปหาเธอตอนนี้มั้ย?               
2. When is the meeting ประชุมเริ่มเมื่อไหร่?
3. How soon is the meeting    ประชุมจะเริ่มเร็วแค่ไหน                          
4. Would you take her call  เธอโทรหาเจนได้มั้ย?
ตอบ ข้อ 1 นะคะ จะให้โทรหาตอนนี้มั้ย แต่พอลล่าบอกกลับมาว่าประชุมจะเริ่มแล้ว ยังไงก็มาไม่ทันแน่ๆ แบบยอมแพ้แล้ว




11-12 
Alee:   Have you made a decision about the accommodations yet?
             คุณได้ตัดสินใจเกี่ยวกับห้องพักและอาหารรึยัง? 
Liz:     Yes, I ve chosen the cottage, not a hotel this time
            เรียบร้อย ครั้งนี้ฉันเลือกบ้านส่วนตัวนะ ไม่ใช่โรงแรม
Alee:  .....11..... . Why?
             .....11...... ทำไมล่ะ? 
Liz:      I want to make our trip a romantic one.
            ฉันอยากให้ครั้งนี้เป็นอะไรที่โรแมนติกน่ะ
Alee:   So, we have to buy things and cook ourselves?
             งั้น...เราต้องซื้อของกับทำอาหารเองหรอ?
Liz:     Certainly.  There' re a few places where we can do the shopping. 
            ............12.... . It' ll be fine  
            แน่นอน. แต่มันจะมีที่ให้เราไปซื้อของได้นะ  ...12..... มันจะเป็นไปด้วยดี


11.   1.  Oh, I like it. โอ้ ฉันชอบนะ          2.  It s superb. สุดยอดเลย
         3.  The cottage? บ้านส่วนตัว?     4.  What is it?  มันคืออะไรอ้ะ?
ตอบข้อ 3 


12.1.  Don t worry   ไม่ต้องกังวล   2.  Take you time ใจเย็นๆ
       3.  No kidding   ไม่ได้ล้อเล่น  4.  Have fun ขอให้สนุกนะ
ตอบข้อ 1 ค่า


           13-15 
 Manop:   What are those policemen doing? 
                   ตำรวจพวกนั้นทำอะไรอยู่ ? 
 Prapan:   They re stopping motorcyclists. กำลังตั้งด้านหยุดพวกขับมอเตอร์ไซค์น่ะ
 Manop:   .. 13 ...
 Prapon:   I guess those cyclists are ....14 ....
                    ฉันคิด/เดาว่า พวกนั้นน่ะ ......14.....
 Manop:   Yes, I think you re right. Many of them aren t wearing helmets. 
                   ใช่ ฉันก็ว่าเธอพูดถูก หลายคนเลยที่ไม่ใส่หมวกกันน็อค
 Prapan:   ....15 .. . Now I understand why we need policemen here. 
                    ...15..... เข้าใจแล้วล่ะ ทำไมเราถึงต้องการพวกตำรวจที่นี่ 


  
13.   1.  Who are those motorcyclist? พวกคนขับคือใครน่ะ 
         2.  I didn t see the red lights.  ฉันไม่เห็นไฟแดงซักอันเลย (ขออภัยใช้ไม่ถูก ขอใช้อันนะคะ TT)
         3.  Why are they doing that? พวกเขาทำแบบนั้นทำไมอ่ะ  
         4.  We should be patient with them.  เราควรจะอดทนกับพวกนั้นนะ 


ตอบข้อ 3 ค่า
          
14. 1.  trying to ride very slowly  พยายามขับช้าๆ 
      2.  not telling the police the truth ไม่บอกความจริงกับตำรวจ
      3.  not following traffic rules   ไม่ทำตามกฎจราจร
      4.  trying to run away from the police  พยายามหนีตำรวจ
ข้อ 3 ค่า


     

15. 1.  They don't buy helmets.  พวกเขาไม่ซื้อหมวกกันน็อค
      2.  When will they learn what s good for them? เมื่อไหร่พวกนั้นจะรู้ซักที ว่าอะไรดีต่อตัวเอง
      3.  Aren t they aware that the policemen are here? พวกนั้นไม่เห็น/ไม่รู้เลยหรอว่าตำรวจอยู่ที่นี่
      4.  They don t know where to buy helmets. พวกนั้นไม่รู้ว่าจะไปซื้อหมวกที่ไหน
ตอบข้อ 2 ค่า 



Monday, April 9, 2012

Present Simple tense

Present Simple Tense 


รูปประโยคบอกเล่า
Subject+verb+object+ ส่วนขยายต่างๆ(ถ้ามี)
ประธาน+กริยา+กรรม+ ส่วนขยายต่างๆ(ถ้ามี)


เอาแบบจำง่ายๆเลยนะคะ present คือ ปัจจุบัน simple คือ ง่ายๆ อีกความหมายคือชัดแจ้ง นั่นคือ แสดงอะไรที่เป็นเหตุการณ์ปัจจุบัน สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ หรือวิทยาศาสตร์ สิ่งที่เป็นจริง สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน หรือ ความชอบ ไม่ชอบ
เช่น พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก (เหตุการณ์ทางธรรมชาติ)
 The (ใช้ the เพราะ พระอาทิตย์มีดวงเดียว(ในโลก)) sun rises in the east. 
*อย่าลืมเติม s หรือ es หลังคำกริยาที่มีประธานเป็นเอกพจน์ 


ฉันไปโรงเรียนทุกวัน
I go to school everyday.


รูปประโยคคำถาม


Do/Does(กริยาช่วย)+ Subject + Verb(v1 หรือ กริยาอินฟินิทีฟนะคะ เพราะมีกริยาช่วย Do หรือ Does แล้ว) + Object+ ส่วนขยายต่างๆ(ถ้ามี) ?


Do/Does(กริยาช่วย)+ ประธาน+ กริยา+กรรม + ส่วนขยายต่างๆ(ถ้ามี)?


เช่น 


Does she drive to the mall every time she goes?
เธอ(บุคคลที่ 3) ขับรถไปห้างทุกครั้งที่เธอไปไหม?



คุณไปโรงเรียนทุกวันหรือไม่?
Do you go to school everyday?



*ซึ่งเวลาตอบนะคะ บางคนจะตอบยาวๆเลยว่า
Yes, I go to school everyday.
แต่ฝรั่งเวลาตอบเค้าจะนิยมตอบแค่
Yes, I do. / No, I don't
หรือ บางทีจะเน้นย้ำคำตอบจะพูดกันว่า
Do you like this tea?
- Yes, I do like it.
หรือบางทีในประโยคบอกเล่าก็พูดกันนะคะว่า
I do ตามด้วยกริยาช่อง 1 ตามด้วยกรรม 


*อีกซักข้อ 
ถ้าแบบคนไทยเวลาเราถามคำถามไป บางทีเราพูดว่า ห๊ะ มีหรอ ห๊ะ จริงปะ อะไรแบบนี้ใช่มั้ยคะ
ฝรั่งเค้าก็จะพูดกันเช่น
Does she have any dogs at home? ที่บ้านหล่อนมีสุนัขมั้ย
สมมุติตอบไปว่ามี มีตัวเลือกให้ตอบได้นะคะ
1. (Yes,)She does  ใส่yes หรือไม่ก็ได้นะคะ ฝรั่งเข้าใจ
2. Yes, she has( ไม่มีกริยาช่วยแล้วนะคะ) 2 dogs at home. 
ซึ่งบางทีเค้าจะแบบห๊ะ จริงหรอใส่เรา เค้าก็จะพูดแนวๆว่า
Oh! does she !? ซึ่งเราจะตอบเยสหรือพยักหน้าหรืออะไรก็ได้ค่ะ เค้าแค่ถามให้ชัวร์ๆ เป็นแนวๆ ห๊ะ จริงง้าาา บ้านเรา ฮ่าๆ 



ประโยคปฎิเสธ


Subject+do not /does not + Verb (v1) + object+ ส่วนขยายต่างๆ(ถ้ามี) 
ประธาน+ do not/does not(กริยาช่วย)+ กริยา+กรรม+ส่วนขยายต่างๆ(ถ้ามี) 


เช่น
ฉันไม่ชอบสุนัข
I don't like dogs.


เขาไม่ได้ทำงานที่นี่
He does not work here.


Exercise, please fill the answer in the blank.
1._____ she live in Thailand ?
2. He (ดื่ม) ____ coffee everyday. 
3. They _____ like watching tv. (ประโยคปฎิเสธ)


True or False ถ้าผิดแก้ด้วนะคะ จะได้รู้ว่าผิดอย่างไร
1. I does not like cats. (T/F)
2. She goes to school everyday.(T/F)
3. Does they dress like that everyday?(T/F) 



รับแปลเพลงเกาหลี

ใครอยากทราบความหมายและเนื้อร้องของเพลงเกาหลีเพลงไหน เอามาบอกได้นะคะ
แล้วจะรีบแปลให้ค่า :)